¦ ¦ ¦ ¦


ฉบับที่ 24 : ประจำวันที่ 1 ธันวาคม 2568


Cat Scout
โดย อมฤต เหรียญทอง



เย็นวันธรรมดาวันหนึ่ง ที่โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ชั้นนำของประเทศ ยุพดี หญิงสาววัย 28 ปี เพิ่งเสร็จจากการเฝ้าไข้แม่ เธอลงมาซื้อขนมและน้ำดื่มเพื่อประทังหิว แม่ของหล่อนได้รับการผ่าตัดเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ที่ข้างเตียงมีเครื่องวัดสัญญาณชีพที่บ่งบอกถึงการมีชีวิตของหญิงชราซึ่งกำลังหลับสนิท ขณะที่ยุพดีกำลังขึ้นบันไดไปที่หอผู้ป่วยหญิง เธอพบว่าตรงทางเดินไฟดับทั้งหมด เธอต้องค่อย ๆ คลำราวบันไดเดินขึ้นไป จู่ ๆ เครื่องวัดสัญญาณชีพของคนไข้ทุกคนในหอนั้นก็ดังขึ้น แล้วจอมอนิเตอร์ทั้งหมดในหออภิบาลผู้ป่วยในก็ดับวูบ ญาติคนไข้กรีดร้องอย่างตื่นตระหนก ลามไปถึงห้อง ICU สักพักก็เป็นกันหมดทุกอาคาร เครื่องช่วยหายใจของผู้ป่วยหลายรายหยุดทำงาน เจ้าหน้าที่วิ่งวุ่น แล้วไฟสำรองสีส้มก็สว่างจ้าแทนไฟสีขาวนวลตา พยาบาลรีบโทรตามแพทย์มาเพิ่ม
“เครื่องสำรองไฟใช้ได้อีก 2 ชั่วโมงครับ” เจ้าหน้าที่ฝ่ายระบบโทรแจ้งหอผู้ป่วยใน พยาบาลรับทราบ แพทย์ได้รับการตามตัวเพื่อประเมินอาการหรือส่งคนไข้ต่อไปที่อื่น
แพทย์หญิงดลยาถอนหายใจ ทีมฉุกเฉินเพิ่งติดต่อเธอมาว่าโรงพยาบาลเซนต์แมรี่ ที่อยู่ใกล้ ๆ รับคนไข้ ICU ได้อีก 10 เตียง เธอบอกให้รถฉุกเฉินรีบนำส่งคนไข้ทั้งสิบไปที่นั่นโดยเร็ว ส่วนคนไข้ในหอผู้ป่วยในซึ่งอยู่ระหว่างรอดูอาการ คงต้องตรวจสอบเป็นรายเตียง คืนนี้ประสาทของเธอตื่นตัวเต็มที่
"ช่วยดูคุณแม่ให้หน่อยค่ะ" ยุพดีตะโกน ขณะที่แม่ของเธอเริ่มหายใจลำบาก แพทย์หญิงวิ่งไปตามเสียงเรียกของคนไข้ ขณะที่คนไข้อื่น ๆ ดูวิตกกังวลไม่ต่างกัน


หนึ่งทุ่มแล้ว คีตกาล นักวิจัยด้านความปลอดภัยไซเบอร์แห่งสถาบันป้องกันภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สปซช.) ในวัยเพียง 24 ปี กำลังทำงานในห้องแล็บของสถาบัน โดยมีลูกน้องสาว 1 ราย ทั้งคู่กำลังเตรียมตัวกลับบ้าน
เสียงโทรศัพท์กรีดร้องเป็นกังวาน หญิงสาวรับสายโดยทันที คุยอยู่สักพัก เธอก็วางหูแล้วรีบรายงานเจ้านาย "มีการโจมตีโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ คนไข้อาการหนักหลายรายกำลังตกอยู่ในอันตราย"
คีตกาลคว้ากระเป๋าโน้ตบุ๊ก "ไปกันเถอะ ติดรถผมไป น่าจะไม่เกิน 15 นาที"
ที่โรงพยาบาล ชั้นล่างสุดไฟดับสนิท คนไข้นั่งรอกันเต็มทุกที่นั่ง และยืนรออีกประมาณห้าสิบคน เจ้าหน้าที่ชี้แจงสถานการณ์ คีตกาลและศุภิตสราไปพบกับเจ้าหน้าที่ดูแลระบบประจำโรงพยาบาลที่กำลังพยายามแก้ไขสถานการณ์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ยังดีที่ห้องไอทีมีเครื่องสำรองไฟ
ชายหนุ่มขอเชื่อมต่อเข้ากับระบบโรงพยาบาล ไล่อ่านไฟล์ล็อกหรือข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์อยู่ 10 นาที ขณะที่ศุภิตสราพยายามอัปเดต Cat Scout ซอฟต์แวร์ปัญญาประดิษฐ์ที่คีตกาลและศุภิตสราร่วมกันเขียนขึ้น ให้กับโรงพยาบาล และขอให้ Cat Scout ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลสถานการณ์ปัจจุบัน
ผ่านไปครู่ใหญ่ หญิงสาวรายงาน “ซอฟต์แวร์ของเครื่องวัดสัญญาณชีพไม่ได้อัปเดตแพทช์อย่างสม่ำเสมอ ทำให้ช่องโหว่ไม่ได้รับการแก้ไข”
ชายหนุ่มพยักหน้า พลางบอกให้เจ้าหน้าที่ไอทีรีบเข้าเว็บไซต์ของเครื่องวัดสัญญาณชีพยี่ห้อนี้ เพื่อดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ล่าสุดมาติดตั้ง เพราะการใช้ตัวที่อัปเดตล่าสุด จะช่วยลดความเสี่ยงในการถูกเจาะระบบได้ ก่อนจะสนใจวิเคราะห์พฤติกรรมของมัลแวร์ที่เข้ามาโจมตีโรงพยาบาลครั้งนี้
"มัลแวร์ตัวนี้ฉลาดมาก ดูนี่สิ...ศุภิตสรา" ชายหนุ่มกล่าวเชิญชวนให้ดูบรรทัดหนึ่งในหน้าจอของตน "มันโจมตีจุดสำคัญทุกจุดพร้อมกันในทุกวงเครือข่าย"
ศุภิตสราเห็นจุดแดงเถือกในทุกวงเครือข่าย อันแสดงให้เห็นว่ามัลแวร์กระจายไปหลายจุด คงต้องพยายามจำกัดความเสียหายในแต่ละวงแล้วค่อย ๆ ตัดการเชื่อมต่อ
Cat Scout ปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูงที่เชี่ยวชาญการตรวจจับพฤติกรรมผิดปกติในระบบเครือข่าย ได้รายงานศุภิตสราเป็นระยะ ถึงความเคลื่อนไหวของมัลแวร์พิเศษรายนี้
"คุณหมอกำลังช่วยคนไข้อยู่ แต่เราเหลือเวลาไม่มาก ไฟสำรองจะหมดใน 30 นาที"
ศุภิตสราพยักหน้ารับรู้
สามปีแล้วที่คีตกาลทำงานอยู่ในสถาบันป้องกันภัยไซเบอร์แห่งชาติ ของประเทศเล็ก ๆ นามว่าฟลอราเบลล์ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นประเทศที่ติดทะเล และมีชื่อเสียงจากการคิดค้นยา MicroAzith ซึ่งใช้ปราบอหิวาตกโรคได้อยู่หมัด และมีราคาถูก ทำให้ทั่วโลกมีคำสั่งซื้อมาไม่ขาดสาย
โครงสร้างการทำงานของ สปซช. คีตกาลเป็นหัวหน้าของ Blue and Incident Response Team ซึ่งหมายถึงทีมที่ทำทุกวิถีทางให้หน่วยงานของรัฐไม่ถูกโจมตีโดยแฮกเกอร์ และคอยกู้คืนระบบหลังจากถูกโจมตีแล้ว แต่ในการขออนุมัติที่สำคัญ ต้องขออนุญาตจาก ดร.ปรเมศวร์ ซึ่งเป็นผู้อำนวยการสถาบันเสียก่อน
นับตั้งแต่เรียนจบ เขาไม่เคยคิดจะไปทำงานที่อื่นใด นับจากสมัยที่เขาเป็นนักศึกษา วันหนึ่ง มหาวิทยาลัยถูกโจมตีในวันลงทะเบียน ระบบล่มแต่เช้า เขาซึ่งตื่นมาจะลงทะเบียนก็ไม่สามารถลงทางออนไลน์ได้ จึงต้องไปที่สำนักงานของคณะ แต่ก็พบกับแถวยาวเหยียด เหตุการณ์ที่ควรจะแย่ แต่ค่อย ๆ ดีขึ้น เพราะคนของ สปซช. ช่วยสนับสนุนพนักงานไอทีของมหาวิทยาลัยอยู่เบื้องหลัง นับตั้งแต่วันนั้น เขาก็จงเกลียดจงชังแฮกเกอร์ และประทับใจในการทำงานของ สปซช. ถึงกับอยากจะร่วมงานกับที่นี่ เพื่อช่วยเหลือผู้คนที่อาจตกเป็นเหยื่อการโจมตีทางไซเบอร์เรื่อยมา

เมื่อประเมินสถานการณ์ตรงหน้า Cat Scout รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้อง แน่นอนว่านี่คือสถานการณ์เร่งด่วน โดยมีตัวประกันคือคนไข้และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล
แทบไม่มีเวลาให้คิด Cat Scout ติดตั้ง honeypot อันเป็นเครือข่ายลวง ที่มีความปลอดภัยต่ำกว่าปกติ เพื่อให้ผู้เจาะระบบหลงกลเข้ามา
Cat Scout ทำงานอย่างรวดเร็ว ตัดการเชื่อมต่อทันที มัลแวร์พยายามหาทางออก แต่มองไปทางใดก็ไม่เจอ ดูเหมือนว่ากว่ามันจะรู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว...
ชายหนุ่มพูดเบาราวเสียงกระซิบ ในทันทีที่มัลแวร์หลงกล “แกคงนึกว่าแกฉลาดล้ำอยู่คนเดียวสินะ”
Cat Scout เปิดไฟล์อย่างระมัดระวัง พบว่ามันถูกเข้ารหัสด้วยความซับซ้อน พยายามหารูปแบบ หรือสิ่งใด ๆ ที่พอจะเป็นกุญแจให้ไขรหัสนี้ได้
"ฉลาดมาก มันรู้จักปรับตัว" เสียงสังเคราะห์ร้องบอก
“ลองใช้ AES-256 Decryptor” ชายหนุ่มบอก Cat Scout เขาพัฒนาเครื่องมือถอดรหัสซึ่งแกะการเข้ารหัสที่ยากที่สุดในปัจจุบัน เครื่องมือนี้ใช้หลักการของควอนตัมคอมพิวติ้งในการทำงาน
Cat Scout พบว่าไม่ง่าย ที่จะถอดรหัสแต่ละส่วน มันทำงานอย่างใจเย็น ระหว่างที่แกะรหัสไป ศุภิตสราสงสัยว่านี่ไม่ใช่ฝีมือของมือสมัครเล่นอย่างแน่นอน ต้องเป็นระดับหัวหน้ากลุ่ม Gespenst กลุ่มก่อการร้ายในตำนาน ใช้เวลากว่า 30 นาที Cat Scout จึงแยกส่วนโค้ดของมัลแวร์รายนี้ได้หมด มันเก็บตัวอย่างไฟล์ไว้ในฐานข้อมูล และพยายามอ่านข้อมูลโค้ดของมัน เพื่อจำแนกประเภท
ความสามารถของ Inspecter คือสามารถปรับเปลี่ยนรหัสของตัวเองและหลบการตรวจจับได้อย่างแนบเนียน
"มันเป็นทั้งโพลิมอร์ฟิก ที่เปลี่ยนโครงสร้างของโค้ดของตัวมันได้ ทำให้ยากที่แอนติไวรัสทั่วไปจะตรวจเจอ และยังเป็นแบบอะแดปทีฟ ซึ่งระหว่างโจมตีจะใช้ machine learning ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของมันไปเรื่อย ๆ ตามสภาพแวดล้อม" คีตกาลพึมพำขณะนิ้วพิมพ์คำสั่งอย่างรวดเร็ว "แต่ทุกอย่างต้องมีจุดอ่อน"
ภายใน 20 นาที ชายหนุ่มและหญิงสาวร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ไอทีของโรงพยาบาลสามารถกำจัดไวรัสและกู้คืนระบบได้สำเร็จ ระบบกลับมาทำงานอีกครั้ง เครื่องช่วยหายใจเริ่มทำงาน จอมอนิเตอร์สว่างขึ้น
ยุพดีมองเห็นสัญญาณชีพของแม่กลับมาปกติ เธอถอนหายใจอย่างโล่งอก แพทย์หญิงดลยาก็สบายใจที่จะไม่ต้องไปรบกวนโรงพยาบาลอื่น เธอรีบเดินไปตรวจคนไข้เตียงอื่น ๆ ต่อไป

วันรุ่งขึ้น ที่ สปซช. คีตกาลชวนศุภิตสรามานั่งวิเคราะห์เหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมา
"มัลแวร์ตัวนี้ถูกออกแบบมาอย่างดี มันสามารถทำลายระบบได้ แต่จริง ๆ มันต้องการเข้าถึงข้อมูลบางอย่าง" คีตกาลอธิบายให้ศุภิตสราฟัง
หญิงสาวรายงานข้อมูลทางฝั่งตนเองบ้าง "มันชื่อ Inspecter เป็นของกลุ่ม Gespenst ไม่ผิดแน่ค่ะ ด้วยรูปแบบการโจมตีและพฤติกรรมของมัน"
กลุ่ม Gespenst เป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่โด่งดัง มีเครือข่ายในหลายประเทศ รับรู้กันว่าหญิงสาวชื่อ ‘ธารณา’ เป็นหัวหน้ากลุ่ม หน้าตาเป็นอย่างไรไม่แน่ชัด กลุ่มนี้อยู่เบื้องหลังการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งสำคัญของโลก เช่น การโจมตีบริษัท FloxFuel Network บริษัทส่งน้ำมันปิโตรเลียมไปตามท่อจากไทยไปเมียนมา การโจมตีครั้งนั้นทำให้ผู้คนกังวลว่าจะขาดแคลนน้ำมัน ราคาน้ำมันจึงพุ่งขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ กลุ่มนี้เรียกร้องบริษัทในราคา 75 Bitcoin เพื่อกู้คืนระบบ ทำให้บริษัทต้องยอมจ่ายเพื่อเปิดให้บริการได้อย่างรวดเร็วอีกครั้ง

สัปดาห์ต่อมา ในเย็นวันธรรมดาวันหนึ่งที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ อันเป็นแหล่งพลังงานหลักของประเทศ ถูกโจมตีอีกแล้ว ทำให้เครื่องหมุนเหวี่ยงหมุนผิดปกติ ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่กัมมันตภาพรังสีจะรั่วไหลหากเครื่องหมุนเหวี่ยงทำให้ภาชนะแตก ยูเรเนียม-238 จะต้องฟุ้งไปยังสถานที่รอบ ๆ โรงงานและรั่วไหลไปทั้งประเทศอย่างแน่นอน
‘ฉันจะป้องกันโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ให้ได้’ ศุภิตสราคิดในใจ เธอติดตั้ง Cat Scout และเขียนโค้ดให้ตรวจสอบส่วนที่น่าจะติดไวรัสก่อน เพื่อจำกัดวงของการค้นหาให้แคบเข้า ส่วนคีตกาลวิเคราะห์ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์จาก Cat Scout อย่างขะมักเขม้น จนกระทั่ง Cat Scout พบอะไรบางอย่าง
Cat Scout ตอบด้วยเสียงสังเคราะห์ “แท่ง 1416 ถึง 1457 มีการหมุนเหวี่ยงผิดปกติ”
“ค่อย ๆ ลดกระแสไฟฟ้าลงช้า ๆ” คีตกาลสั่ง
ชายหนุ่มเข้าใจว่าที่พวกมันเลือกเวลาเย็น เพราะเป็นเวลาที่ใกล้เลิกงาน พนักงานอาจจะไม่ได้มาสนใจอะไรมาก
แท่ง 1416 ถึง 1457 จากเดิมที่สะบัดเหวี่ยงอย่างรุนแรงช่วงเวลาสั้น ๆ จนค่อย ๆ กลายเป็นเขย่าตามปกติ เริ่มเคลื่อนที่ช้าลง ๆ จนกระทั่งหยุดสนิท
Cat Scout ส่งข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ทั้งหมดให้ชายหนุ่มวิเคราะห์ คีตกาลวิเคราะห์อยู่ 25 นาที จึงพูดว่า “การหมุนเหวี่ยงผิดปกติ เนื่องจากมีผู้นำ USB ที่ติดไวรัสมาเสียบ”
หญิงสาวหันหน้าไปมองหัวหน้าอย่างขอความเห็น “พวกมันไม่ได้บุกเข้ามาตามเครือข่ายอินเทอร์เน็ตค่ะ”
คีตกาลพยักหน้า
Cat Scout แจ้งคีตกาลเกี่ยวกับกิจกรรมที่ผิดปกติ เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องเร่งด่วน
คีตกาลทำงานร่วมกันกับเจ้าหน้าที่โรงไฟฟ้าอย่างขะมักเขม้น แม้ว่าเครื่องปรับอากาศจะเย็นเฉียบ แต่ชายหนุ่มรู้สึกร้อนรน แต่ก็ทำงานรวดเร็วและตรวจสอบข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์อย่างละเอียดรอบคอบ ในขณะที่ทุกฝ่ายดูจะเบาใจลงได้
บ่ายนั้น Inspecter เริ่มโจมตี Cat Scout และพยายามวิเคราะห์ข้อมูลของ Cat Scout ไปพร้อมกัน กลุ่ม Gespenst ใฝ่ฝันมานานถึงการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวและกระบวนการคิดของ Cat Scout ได้
มันหลอกล่อ Cat Scout ให้เดินทางไปไล่หลังมัน ก่อนที่จะไปพบกับทางแยกไปเครือข่ายอื่น แล้วทันใดนั้น Inspecter อีกสองตัวก็รุมกินโต๊ะ Cat Scout
Cat Scout หนีไปได้สำเร็จ แต่ Inspecter จำลองตัวเองเพิ่มอีก 5 ตัว ช่วยกันยิงแพ็กเก็ต (บล็อกของข้อมูล) ไปทั่วเครือข่าย
ในห้องสี่เหลี่ยมสีขาว เต็มไปด้วยเสียงหึ่ง ๆ ของคอมพิวเตอร์ที่กำลังทำงานแข่งขันกับเวลา ไม่มีเวลาแม้แต่จะหยุดคิด ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล เพื่อเพิ่มปราการการป้องกันให้แก่ Cat Scout ทั้งที่เพียรพยายามอย่างหนัก แต่ Inspecter ก็พบเข้าจนได้ จุดอ่อนของกระบวนการตัดสินใจของ Cat Scout นั่นคือ ถ้าข้อมูลยิ่งมาก มันจะยิ่งตอบสนองช้าลง Inspecter จึงถาโถมข้อมูลให้มาก และทำให้ Cat Scout ได้ข้อมูลที่เป็นไฟล์ขยะจำนวนมาก มันจึงต้องใช้เวลากรองทิ้งอยู่พักใหญ่ ๆ ตอนนี้ร่างของมันจึงเต็มไปด้วยไฟล์จนหน่วยความจำของ Cat Scout ใกล้เต็ม ข้อมูลถูกเข้ารหัส ก่อนที่ Cat Scout จะหยุดตัวเองไปในที่สุด...

แม้ว่าครั้งนี้จะแพ้พ่าย แต่ Cat Scout แต่ก็ไม่ถือว่าเสียเปล่า เพราะศุภิตสราได้รู้ข้อมูลบางอย่างที่สำคัญมาก
เธอวิเคราะห์ข้อมูลการต่อสู้ครั้งที่แล้วกับ Inspecter จนสรุปได้ว่า "มันเรียนรู้จาก Cat Scout"
คีตกาลผงกหัว ไม่แปลกใจเลยที่ทำไม Cat Scout จึงได้พ่าย มันเรียนรู้ได้ช้ากว่า Inspecter เขาคิดพลางใช้นิ้วพรมลงไปบนคีย์บอร์ด ‘จุดอ่อนของ Inspecter คือมันชอบปรับตัว งั้นถ้าเราทำให้มันปรับตัวไม่ได้ล่ะ’
คีตกาลเอนหลังลงพิงเบาะนุ่ม เขาตัดสินใจเสริมความแข็งแกร่งขั้นสุด ด้วยอัลกอริทึมการเรียนรู้จากสิ่งรอบข้าง โดยใช้โครงข่ายประสาทเทียม ซึ่งเป็นการทำงานที่จำลองประสาทมนุษย์ เพื่อช่วยในการตรวจจับสิ่งผิดปกติ หากสิ่งผิดปกติเกินค่าที่กำหนด เช่น เกิน 2% Cat Scout ก็จะดำเนินการตามที่ถูกสอนมาได้ทันท่วงที
คืนนั้น คีตกาลแทบไม่ได้นอน หน้าจอสีดำเผยให้เห็นโค้ดหลายร้อยบรรทัดที่เขียนด้วยอักษรสีขาว เคาะระรัวไปที่คีย์บอร์ดอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย ชายหนุ่มรู้ดีว่าการสู้รบครั้งนี้ยังไม่จบ...
นี่แค่ยกที่สอง ศุภิตสราสัญญากับตนเองว่าครั้งหน้า Cat Scout จะเอาชนะให้ได้


ชายหนุ่มยิ้มอย่างพึงใจที่หน้าจอ คล้ายเด็กที่ตกแต่งกันพลาของตนเอง เขาเสริม Adaptive Defense System เพื่อให้ Cat Scout มีพฤติกรรมแบบสุ่ม ทำให้ Inspecter คาดเดาได้ยาก
ขณะเดียวกัน ศุภิตสราพัฒนา sandbox ซึ่งเป็นสถานการณ์จำลองให้ Cat Scout ใช้เรียนรู้ที่จะต่อกรกับ Inspecter รวมถึงวิเคราะห์ความน่าจะเป็นที่ Inspecter จะดำเนินการต่อจากนั้น คล้ายกับการที่เราเก็บสถิติการเล่นเป่ายิงฉุบของเพื่อน เพื่อคาดเดาว่าชอบออกกรรไกร ค้อน กระดาษ ในสถานการณ์ใด เหตุการณ์ใดเกิดขึ้นบ่อยที่สุด คีตกาลช่วยเตรียมแผนรับมือในแต่ละสถานการณ์ให้ด้วย ว่าถ้า Inspecter ทำแบบนี้ Cat Scout ควรเริ่มทำอะไรก่อน เพื่อจะได้ชิงความได้เปรียบสูงสุด
ดร.ปรเมศวร์ หัวหน้าของคีตกาล เห็นสองคนนี้อยู่ในแล็บ ขยันขันแข็ง จึงเดินมาชมเชย และยังกล่าวชื่นชมทั้งชายหนุ่มและหญิงสาวให้ทีมอื่นฟัง ในที่ประชุมใหญ่ของ สปซช. อีกด้วย ทำเอาสองคนนี้ยิ่งตั้งอกตั้งใจในภารกิจเพิ่มขึ้นทบทวี

องค์การเภสัชกรรมถูกโจมตี แต่คราวนี้ทีมของคีตกาลเตรียมพร้อมไว้แล้ว ทุกคนในทีมเต็มไปด้วยความหวังในขณะที่ ชายหนุ่มจ้องไปที่จอมอนิเตอร์ ใบหน้าของพวกเขาสว่างเรือง ๆ ด้วยแสงจากจอ องค์การเภสัชกรรมของรัฐบาลถูกเจาะระบบ แต่คราวนี้ พวกเขาพร้อมแล้ว การเตรียมตัว การจำลองสถานการณ์ และมาตรการรับมือหลายชั่วโมงก็เพื่อเวลานี้

Cat Scout เริ่มทำงานเหมือนนักล่าในโลกดิจิทัล อัลกอริทึมที่ล้ำสมัยพุ่งเข้าสู่โครงข่ายที่เสียหาย คอยตามเส้นทางการโจมตีเหมือนนักล่าที่คอยสะกดรอยเหยื่อ ทุกการเคลื่อนไหวได้รับการคำนวณอย่างแม่นยำ แต่ผู้บุกรุกไม่ใช่แค่เพียงมัลแวร์กระจอกทั่วไป แต่เป็น Inspecter ซึ่งเป็นอาวุธไซเบอร์ที่น่าเกรงขามและฉลาดแกมโกงที่ไม่เหมือนตัวใดที่ Cat Scout ที่เคยเผชิญมาก่อน

การต่อสู้เกิดขึ้นในโลกไซเบอร์ สังเวียนที่มองไม่เห็นซึ่งทุกไบต์และแพ็กเก็ตกลายเป็นอาวุธ Cat Scout สกัดกั้นกระแสข้อมูลที่ไหลบ่าเข้ามา รู้จักคัดกรองและติดตามไปยังเครือข่ายลึกลับที่เชื่อมโยงกับ BioInnoGenome ซึ่งเป็นองค์กรที่อยู่เบื้องหลัง Cat Scout รายงานผลทางหน้าจอ นั่นยิ่งทำให้สองหนุ่มสาวประหลาดใจ ในขณะเดียวกัน Inspecter ก็ได้ใช้มาตรการตอบโต้โดยวางตัวล่อและสร้างเส้นทางที่หลอกลวงเพื่อหลอกล่อ Cat Scout ให้หลงทาง


ทีมของคีตกาลเฝ้าดูการเดินทางของ Cat Scout ราวกับการขี่ม้าออกศึกในยุคโบราณ เอาชนะกับดักทีละอันโดยปรับตัวด้วยความมุ่งมั่นอย่างไม่ลดละ แต่ Inspecter ก็ไม่หยุดเช่นกัน สถาปัตยกรรมที่ซับซ้อนของมันค่อย ๆ ปอกเปลือกการป้องกันของ Cat Scout ทีละชั้น ห้องเริ่มตึงเครียดขึ้นเมื่อ Inspecter ตัดสินใจจำลองตนเองเป็นสามตัว

ในช่วงเวลาหนึ่ง ดูเหมือนว่า Inspecter จะเข้าถึงฐานข้อมูลที่บันทึกสูตรยา แต่ Cat Scout ได้ใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ที่ Inspecter ไม่คาดคิดมาก่อนด้วยการเคลื่อนไหวครั้งสุดท้ายอันชาญฉลาด honeypot อันเป็นกับดักดิจิทัลที่ออกแบบให้เหมือนระบบจริงแต่ใช้ดักจับและศึกษาพฤติกรรมของผู้บุกรุก ถูกติดตั้ง ไม่นานนัก Inspecter ก็ปรากฏในกับดัก โค้ดของมัลแวร์ล้มเหลวและแตกออกเป็นเสี่ยงๆ จากการโจมตีอย่างแม่นยำของ Cat Scout ทีมต่างโห่ร้องแสดงความยินดี พวกเขาไม่รีรอที่จะชำแหละโค้ดของ Inspecter เพื่อตรวจสอบและบันทึกข้อมูลไว้ต่อไป

คีตกาลเอนหลังพิงเก้าอี้ หัวใจของเขาเต้นแรง หลังจากลุ้นระทึก เขาไม่ได้แค่โจมตีมัลแวร์เพียงอย่างเดียว แต่สิ่งที่ทางคีตกาลได้รับ ในไฟล์ล็อกของ Inspecter มันคือความเชื่อมโยงกับ BioInnoGenome นี่เป็นเรื่องราวที่ใหญ่โตกว่าที่พวกเขาจินตนาการไว้มาก ขณะที่ชายหนุ่มปิดเครื่อง Cat Scout เพื่อพักการใช้งาน ชายหนุ่มและหญิงสาวก็สบตากันว่าจะทำอะไรต่อ

วันรุ่งขึ้น Cat Scout วิเคราะห์ข้อมูลตามเส้นทางการโจมตีและพบว่าข้อมูลถูกส่งไปยังเครือข่ายที่เชื่อมโยงกับ BioInnoGenome บริษัทผลิตยาขนาดใหญ่ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดยา

"พวกเขากำลังขโมยสูตรยาต้านโรคระบาดตัวใหม่" คีตกาลกล่าวขณะจ้องหน้าจอ "นี่ไม่ใช่แค่อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ แต่เป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ"

ศุภิตสราหรี่ตามองข้อมูลบนหน้าจอ "ข้อมูลนี้...ถ้าตกไปอยู่ในมือผิดคน มันจะทำให้ใครบางคนร่ำรวยมหาศาล และทำให้คนอื่นตายได้"


ทีมของคีตกาลร่วมมือกับตำรวจไซเบอร์และทีมความมั่นคงของประเทศ วางแผนบุกเข้าจับกุมกลุ่มแฮกเกอร์ Gespenst ซึ่งปฏิบัติการอยู่ในคอนโดหรูย่านใจกลางเมือง

"เตรียมพร้อม" เสียงของหัวหน้าทีมตำรวจดังผ่านวิทยุสื่อสาร "บุก!"

ธารณา หัวหน้ากลุ่ม Gespenst ในฟลอราเบลล์ถูกจับพร้อมกับพรรคพวกอีก 5 คน คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์จำนวนมากถูกยึด ภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบตัวธารณา เป็นภาพลงในสำนักข่าวออนไลน์ทุกสำนัก


ที่สำนักงานใหญ่ บริษัท BioInnoGenome ตำรวจไซเบอร์เคาะประตูห้องของนายอาโนโว ผู้บริหารของ BioInnoGenome
“นี่มันอะไรกัน” นายอาโนโวลนลาน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่สามนายกรูกันเข้ามา พยายามดิ้นรนหลบหนีแต่ไม่สำเร็จ
ชายหัวล้านเครายาว ถูกรวบตัว ใส่กุญแจมือ เป็นภาพข่าวที่ทุกสำนักนำไปลง
รัฐบาลห้ามนำเข้ายาจากบริษัท BioInnoGenome ไม่นาน ข่าวนี้ก็รู้กันทั่วโลก หุ้น BioInnoGenome ราคาตกลง หลายโรงพยาบาลปฏิเสธยาจากบริษัทนี้ หลาย ๆ ประเทศเริ่มออกมาแฉบริษัทข้ามชาติรายนี้
BioInnoGenome บริษัทยายักษ์ใหญ่ระดับโลก ผู้ผลิต Azithrolite ยาที่ใช้แก้อหิวาตกโรคเช่นกัน ทว่าราคาแพงกว่า MicroAzith ถึงเกือบสามเท่า ใกล้ถึงกาลอวสาน
ยุพดีที่เห็นข่าวได้แต่ถอนหายใจ คิดในใจว่า ‘ขอบคุณ สปซช.’

ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะจบลง แต่คีตกาลยังรู้สึกเคลือบแคลง คล้ายบางอย่างยังคงค้างคา ใน สปซช. ข้อมูลที่ชายหนุ่มหมายจะทำเป็นฐานข้อมูลไว้เผื่อแผ่แก่ทีมอื่น ๆ บางส่วนถูกดึงออกไปอย่างลับๆ โดยไม่มีการลงบันทึกในไฟล์ล็อกอย่างที่ควรเป็น 
"มีคนเจาะระบบเราจากข้างใน" คีตกาลบอกศุภิตสรา "แต่มันแทบไม่ทิ้งร่องรอยเลย"

ศุภิตสรารู้สึกเครียด "ถ้าอย่างนั้น เรายังไม่ปลอดภัย"

ในอีเมล คีตกาลเพิ่งได้รับคำสั่งจากหัวหน้า ให้งดสอบสวนเพิ่มเติมหรือค้นคว้าเกี่ยวกับ Gespenst เหตุผลนั้นฟังไม่ค่อยขึ้น
"เป็นมติของเบื้องบน เพื่อที่กลุ่มแฮกเกอร์อื่นจะได้ตายใจ" 

ศุภิตสราหันหน้ามาเป็นเชิงสงสัย คีตกาลบอกว่าให้ทำตามที่อีเมลบอก เพราะเป็นคำสั่ง

คืนนั้น คีตกาล ศุภิตสรา และเจ้าหน้าที่พิเศษจากสำนักนายกฯ บุกเข้าจับกุม ดร.ปรเมศวร์ ในขณะที่กำลังสนทนากับตัวแทน Gespenst จากต่างประเทศผ่านวิดีโอคอล ในห้องของเขาเอง

"คุณเองสินะ ที่ทำให้ทุกอย่างต้องวุ่นวายแบบนี้" คีตกาลกล่าวเสียงเรียบ "คนตายไปกี่คนแล้ว เพราะสิ่งที่คุณทำ"
"คุณปรเมศวร์" ศุภิตสรากล่าว น้ำเสียงสั่นเครือด้วยความโกรธ "คุณทำได้ยังไง คุณทรยศต่อคนฟลอราเบลล์ทั้งห้าล้านคนทั่วประเทศ"

ดร.ปรเมศวร์หัวเราะเยาะ ดูคล้ายคนวิกลจริต "แล้วไง เด็กน้อยอย่างเธอไม่มีวันเข้าใจหรอกว่าโลกมันเป็นยังไง ทุกคนมีราคาของตัวเองกันทั้งนั้น"

"แต่ผมเลือกจะทำให้มันดีขึ้น" คีตกาลตอบกลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เสียงดังขึ้นโดยไม่รู้ตัว "เราคงไม่คุยกับคุณต่อแล้ว คุณจะต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่คุณเลือก"

หลักฐานทั้งหมดชี้ชัดถึงการกระทำของเขา ดร.ปรเมศวร์ถูกรวบใส่กุญแจมือ หน้าตาไม่สลด คดีนี้กลายเป็นประเด็นใหญ่ระดับประเทศ สปซช. ถูกปรับโครงสร้างใหม่ทั้งหมด


ที่แท้ ก่อนหน้าการจับกุมหัวหน้าของเขาเอง คีตกาลและศุภิตสราตัดสินใจวางแผนลับ พวกเขาติดต่อกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสำนักนายกรัฐมนตรีที่คีตกาลเคยทำงานด้วย เพื่อขอคำปรึกษาและการสนับสนุน

ศุภิตสราปล่อยข้อมูลลวงเกี่ยวกับการพัฒนา Cat Scout รุ่นใหม่ที่สามารถตรวจสอบร่องรอยการโจมตีย้อนหลังได้ ไม่นานหลังจากนั้น พวกเขาก็พบว่ามีคนพยายามเข้าถึงข้อมูลนี้

"มาแล้ว" คีตกาลกระซิบขณะมองหน้าจอ รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏที่มุมปาก "ไฟล์ล็อกมีวัน เวลา และชื่อผู้ใช้งานชัดเจน"

พวกเขาติดตามการเข้าถึงข้อมูลและพบว่ามันมาจากคอมพิวเตอร์ในที่ทำงานของดร.ปรเมศวร์ หลักฐานชัดเจนว่าเขาได้ลอบส่งข้อมูลลับทั้งหมดไปขายให้กับกลุ่มแฮกเกอร์ต่างชาติ และติดตั้งโปรแกรมแฮกข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ของตนเอง ไม่แปลกใจเลยที่ Inspecter จะรู้จุดอ่อนของ Cat Scout 
 



เดือนต่อมา คีตกาลได้รับการเสนอชื่อให้เป็นรองผู้อำนวยการของ สปซช. รักษาการแทนผู้อำนวยการของ สปซช. แต่เขาปฏิเสธ เลือกที่จะทำงานด้านวิจัยและพัฒนาต่อไป

"ผมยังต้องการพัฒนา Cat Scout ให้ดีขึ้น" เขาบอกศุภิตสรา "การต่อสู้ยังไม่จบหรอก"

ศุภิตสรานั่งลงข้าง ๆ เขา มือวางบนแป้นพิมพ์พร้อมทำงาน

"เราจะเตรียมพร้อม" เธอกล่าว แววตาเด็ดเดี่ยว ตราบใดที่คีตกาลยังอยู่ เธอจะสนับสนุนเขา ชายหนุ่มพยักหน้า

เขามองออกไปนอกหน้าต่างห้องทำงาน มองไปไกลแสนไกล อาทิตย์อัสดงย้อมท้องฟ้าให้เป็นสีส้มอมน้ำตาลอย่างน่ากลัว แม้จะน่ากลัวเพียงไร ขอให้มีทีมงานที่ดีเคียงข้าง เขาก็ไม่นึกหวั่น





ขอสงวนสิทธิ์ข้อความทั้งหมดภายในเว็บไซท์
Copyright by http://www.espressoandcigarette.com