¦ ¦ ¦ ¦


ฉบับที่ 24 : ประจำวันที่ 1 ธันวาคม 2568


Dolly on My Mind
โดย gchel




หญิงสาวผมบลอนด์ในชุดกระโปรงยาวสีชมพูชื่อซูซานยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ในครัวของบ้านหลังนี้ซึ่งมีเพียงแค่แสงไฟสลัวจากเพดานในช่วงเวลาใกล้ค่ำ มือทั้งสองข้างของเธอยังคงถือกล่องสีแดงใบหนึ่งที่เธอหยิบมาจากตู้เสื้อผ้าในห้องนอนชั้นบนไว้แน่น แม้เสียงแจ้งเตือนในโสตประสาทจะส่งสัญญาณทุก ๆ 10 นาทีเพื่อให้เธอรับทราบถึงการกลับมาของรอนผู้เป็นเจ้าของบ้าน รวมถึงให้เธอกลับไปทำหน้าที่ที่เธอได้รับมอบหมายจากบริษัทต้นสังกัดได้แล้ว ทว่าดวงตาทั้งสองข้างของซูซานยังคงจับจ้องไปที่บางสิ่งซึ่งถูกวางไว้บนโต๊ะตรงหน้านับตั้งแต่เธอจำความได้หลังย้ายมาอาศัยอยู่ที่นี่เมื่อหลายเดือนก่อนตามคำสั่งของ ‘เจ้านาย’ ที่มอบหมายให้เธอดูแล ‘เขา’
ภายใต้แสงสลัวจากไฟบนเพดานและโคมไฟนอกบริเวณบ้านที่ส่องสว่างราวกับเป็นสักขีพยานต่อความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้าก็เร็ว ซูซานพบว่าช่อดอกไม้สีขาวยังคงถูกวางไว้อยู่บนที่โต๊ะไม้สักขนาดยาวในครัวตามคำสั่งของรอน สถาปนิกหนุ่มเจ้าของบ้านซึ่งไม่ค่อยได้ออกไปสุงสิงกับใครนับตั้งแต่ดอลลี่ผู้เป็นภรรยาของเขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ นอกจากรอนผู้ชินชาต่อการมองเห็นช่อดอกไม้ที่เขามักจะบ่นแต่ก็ยังวางมันไว้บนโต๊ะตัวเดิมในทุกวันแล้ว ซูซานเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่พยายามทำความเข้าใจความหมายของดอกไม้ช่อนั้นที่รอนซื้อมาให้ดอลลี่ แม้ซูซานจะไม่เคยปริปากถามรอนโดยตรงนับตั้งแต่วันแรกที่เธอเห็นมันถูกวางไว้บนโต๊ะตัวนี้เลยก็ตาม ซูซานยังคงทำตามคำสั่งจากบริษัทต้นสังกัดให้มาช่วยเหลือสถาปนิกหนุ่มในฐานะ ‘หุ่นยนต์ผู้ช่วย’ อย่างเคร่งครัดหลังทุกคนที่รู้จักรอนนั้นต่างพบว่าเขาจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือจาก ‘เธอ’ อย่างเร่งด่วนในฐานะเพื่อนผู้ปลอบประโลมและที่ปรึกษาคนสำคัญหลังเขาเผชิญหน้ากับความสูญเสียครั้งใหญ่ในชีวิต
“ขอบคุณมากนะที่อุตส่าห์เป็นห่วงผมเพราะเรื่องนี้ แต่ผมไม่ต้องการคำปรึกษาและความช่วยเหลือจากใครทั้งนั้น”
นั่นคือประโยคแรกที่ซูซานได้ยินจากปากของรอนหลังเจ้านายของเธอแนะนำให้เธอกับชายหนุ่มรู้จักกันเป็นครั้งแรก ทว่าเพียงไม่กี่นาทีหลังรอนได้เห็นท่าทีของพ่อแม่และน้องสาวคนเดียวของเขาที่มีต่อซูซานซึ่งเป็นภาพจำจากเหตุการณ์หนึ่งที่แทบไม่ต่างจากวันแรกที่เขาพาดอลลี่มาอยู่ที่บ้านหลังนี้เลยสักนิด สถาปนิกหนุ่มอารมณ์ร้อนกลับเปลี่ยนใจเซ็นยินยอมและให้ซูซานเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกในครอบครัวในฐานะหุ่นยนต์ผู้ช่วยเฉกเช่นหุ่นยนต์ตัวอื่น ๆ ที่อาศัยอยู่ในบ้านของเพื่อนบ้าน ก่อนที่รอนจะรีบขอร้องแกมบังคับให้เจ้านายจากบริษัทต้นสังกัดของซูซานกลับไปหลังสถาปนิกหนุ่มได้เห็นหุ่นยนต์ตัวใหม่กำลังยืนสังเกตลักษณะภายนอกของช่อดอกไม้สีขาวช่อหนึ่งที่เขาวางไว้บนโต๊ะในครัวด้วยความสงสัยและสนอกสนใจ
“หยุดมองมันได้แล้วน่า ไม่เห็นรึยังไงว่ามีจานชามที่ยังไม่ได้ล้างอยู่ตรงนั้น รีบ ๆ ล้างให้เสร็จแล้วมาดูดฝุ่นตรงนี้เร็ว”
ซูซานพยักหน้ารับคำสั่งจากมนุษย์ผู้ใช้งานของเธอ ก่อนจะทำตามคำสั่งดังกล่าวของเขาแต่โดยดี
ครู่หนึ่งที่หุ่นยนต์ในคราบหญิงสาวสวมชุดกระโปรงสีสันสดใสสังเกตเห็นว่าสถาปนิกหนุ่มกำลังยืนชำเลืองมองเธอสลับกับภาพถ่ายวันแต่งงานระหว่างเขากับภรรยาผู้ล่วงลับซึ่งถูกแปะติดไว้บนตู้เย็นด้วยสายตาที่แม้แต่หุ่นยนต์ผู้ช่วยอย่างเธอก็อ่านไม่ออกว่ามันหมายถึงอะไร ก่อนที่ซูซานจะหันมาสนใจกับการทำงานตรงหน้าอย่างเต็มที่หลังเห็นว่ารอนเดินออกไปแล้ว
นั่นคือกิจวัตรประจำวันหลัก ๆ ระหว่างรอนผู้เป็นเจ้าของบ้านกับซูซานผู้เป็นหุ่นยนต์ผู้ช่วยตลอดระยะเวลาที่พวกเขาอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน พ่อแม่และน้องสาวของรอนมักมาเยี่ยมเยียนสถาปนิกในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ใกล้สิ้นเดือน ในขณะที่เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของรอนมักโทรถามเขาก่อนเสมอว่ารอนสะดวกใจที่จะต้อนรับแขกในช่วงกลางเดือนหรือไม่ ส่วนใหญ่ซูซานเป็นคนโทรกลับไปแจ้งเพื่อนสนิทของรอนว่าเขาอยากอยู่คนเดียวมากกว่า เนื่องจากรอนไม่ชอบการคุยโทรศัพท์ถึงกระนั้น ซูซานก็ไม่ลืมที่จะขอบคุณเพื่อนสนิทของชายหนุ่มตามคำสั่งที่เธอได้รับมอบหมายจากการประมวลผลทางความคิดอันเป็นพัฒนาการทางเทคโนโลยีที่ทางบริษัทต้นสังกัดของเธอหมั่นคอยอัปเดตให้เธอและหุ่นยนต์ผู้ช่วยตัวอื่น ๆ อยู่เสมอ
“คุณนี่น่ารักจังเลย ซูซาน” เพื่อนสนิทของรอนเอ่ยกับเธอเช่นนี้ทุกครั้ง “ผมล่ะอยากให้ดอลลี่เป็นเหมือนคุณบ้างจัง”
ชื่อของดอลลี่ที่มาพร้อมกับภาพจำของหญิงสาวผมสีน้ำตาลเข้มที่ซูซานได้พบเจอผ่านสื่อต่าง ๆ ในบ้านหลังนี้ เปรียบเสมือนการป้อนข้อมูลชุดใหม่ที่ทำให้ระบบการประมวลความคิดของซูซานครั้งนี้ทำงานรวดเร็วอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพมากขึ้น “ดอลลี่เป็นคนยังไงเหรอคะ” ซูซานถามกลับไปทั้งที่เธอไม่เข้าใจและไม่ได้รู้สึกถึงความอยากรู้อยากเห็นเหมือนที่รอนเอ่ยขึ้นมาลอย ๆ ในเช้าวันเสาร์หลังได้เห็นว่าเธอกำลังประมวลผลบริบทของเนื้อหาในรายการทีวีที่เขานั่งดูไปด้วย
“ดอลลี่น่ะเหรอ เธอก็... เป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งนี่แหละ เพียงแต่ในสายตาของรอนน่ะ เธอเป็นคนพิเศษมากเลย”
ภายใต้ภาพลักษณ์ของการเป็นมนุษย์ที่อยู่อาศัยร่วมกับมนุษย์คนอื่น ๆ ภายในหมู่บ้านขนาดกลางที่ไม่ไกลจากบริเวณแถบชานเมืองมากนัก ซูซานรวมถึงหุ่นยนต์ผู้ช่วยตัวอื่น ๆ ต่างได้รับข้อมูลพื้นฐานจากบริษัทต้นสังกัดของพวกเขาว่าวิธีการเข้าถึงจิตวิญญาณของความเป็นมนุษย์ได้นั้น ต้องอาศัยการประมวลผลขั้นสูงผ่านระบบปฏิบัติการที่ถูกติดตั้งมาเพื่อใช้ในการรับรู้ร่วมกับทำความเข้าใจความซับซ้อนทางอารมณ์ ความแตกต่างทางวัฒนธรรมความเชื่อที่เป็นทั้งรูปธรรมและนามธรรม รวมถึงวิเคราะห์ความรู้สึกต่าง ๆ ของมนุษย์ผู้ใช้งานทุกครั้งที่พวกเขาแลกเปลี่ยนบทสนทนากันให้ได้ด้วย
“เธอพิเศษยังไงเหรอคะ”
“ก็... ดอลลี่ทำให้รอนรู้สึกเหมือนเธอคือโลกทั้งใบของเขา ทั้ง ๆ ที่... มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลยเสียทีเดียว”
โชคดีที่พัฒนาการของปัญญาประดิษฐ์หรือที่ทุกคนรู้จักในชื่อว่า Artificial Intelligence (AI) นั้น ปีนี้ถือได้ว่าเป็นปรากฏการณ์แห่งปีที่ส่งผลให้ซูซานรวมถึงหุ่นยนต์ตัวอื่น ๆ มีโอกาสเข้าถึงจิตวิญญาณ ‘ช่วยเหลือ’ มนุษย์ได้ผ่านการทำนายพฤติกรรมล่วงหน้าของมนุษย์ผู้ใช้งานเฉกเช่นการจำลองความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ด้วยกัน เห็นได้จากการอิงอาศัยการทำความเข้าใจความรู้สึกที่เกิดขึ้นตรงหน้าระหว่างมนุษย์ผู้ใช้งานกับหุ่นยนต์ผู้ช่วย ซึ่งปรากฏการณ์แห่งปีสำหรับการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ในปีนี้ที่มนุษย์ผู้ใช้งานทุกคนได้รับรู้กันในวงกว้าง ก็คือการพัฒนาฟังก์ชั่นการทำงานของปัญญาประดิษฐ์ให้เป็นรูปแบบ Theory of Mind ที่ส่งผลให้หุ่นยนต์ผู้ช่วยสามารถประมวลความคิดในการวิเคราะห์ วางแผน และแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้ทันท่วงทีผ่านการเรียนรู้ประสบการณ์ต่าง ๆ จากอดีตได้เหมือนมนุษย์ทั่วไป
ซูซานนิ่งไปครู่หนึ่งขณะประมวลความคิดข้อมูลในระบบไปด้วย ก่อนที่เธอจะถามเพื่อนสนิทของรอนหลังสบโอกาสที่สถาปนิกหนุ่มกำลังเดินไปเก็บกระถางดอกไม้ตรงบริเวณสวนหลังบ้านพอดี “ดอลลี่มีความลับอะไรที่ไม่เคยบอกรอนเหรอคะ”
“เอ่อ...” คำถามที่คาดไม่ถึงจากซูซานทำให้เพื่อนสนิทของรอนรู้สึกกระวนกระวายขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก “เอาเป็นว่าผมจะโทรมาหารอนใหม่ละกันนะ ซูซาน ไว้เจอกันนะครับ”
ทันทีที่เพื่อนสนิทของรอนวางสายไปโดยไม่รอให้ซูซานได้เอ่ยคำลาตามการประมวลผลของระบบการทำงานทั่วไป หุ่นยนต์ผู้ช่วยในคราบหญิงสาวตัดสินใจยกหูโทรศัพท์กลับไปวางไว้ที่เดิม ก่อนจะเดินขึ้นไปยังห้องนอนชั้นบนโดยไม่ลืมที่จะประมวลผลข้อมูลทั่วไปผ่านการสังเกตสีหน้าและท่าทีเคร่งเครียดของรอนขณะจัดสวนดอกไม้ในช่วงยามบ่ายไปด้วย
ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา ซูซานพบว่าหนึ่งในแหล่งความรู้สำคัญที่เธอสามารถสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมได้นอกเหนือจากการรออัปเดตคลังข้อมูลในระบบคลาวด์หลักจากบริษัทต้นสังกัดของเธอนั้น ก็คือเว็บไซต์รวมคลังคลิปวิดีโอจำนวนมหาศาลที่เธอสังเกตเห็นว่ารอนมักใช้เวลาว่างหลังเลิกงานไปกับการเสพสื่อบันเทิงเพื่อคลายเครียดก่อนนั่งทานมื้อเย็นที่เธอจัดเตรียมให้เขาอย่างพิถีพิถันโดยที่หุ่นยนต์ผู้ช่วยอย่างเธอนั้นนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นเพื่อรอให้เขาทานอาหารเสร็จเรียบร้อย ก่อนที่สถาปนิกหนุ่มจะเดินขึ้นไปชั้นบนเพื่ออาบน้ำและเข้านอนตามกิจวัตรของมนุษย์เงินเดือน
คลิปวิดีโอส่วนใหญ่ที่ซูซานสืบค้นรวมถึงแบ่งปันกับหุ่นยนต์ผู้ช่วยคนอื่น ๆ ในหมู่บ้านเดียวกันผ่านระบบคลาวด์นั้น มักเป็นคลิปวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับการแต่งตัว การดูแลรักษาความสะอาดที่อยู่อาศัยอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงกิจกรรมสันทนาการทั่วไปที่ช่วยสานสัมพันธ์อันดีระหว่างเพื่อนบ้านด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นคลิปการทำความสะอาดบ้านและทำอาหารมื้อโปรดแสนอร่อยให้มนุษย์ผู้ใช้งานได้ลิ้มลองไปจนถึงคลิปรวบรวมเคล็ดลับในการจัดงานเลี้ยงที่บ้านเพื่อแสดงความขอบคุณร่วมกับเฉลิมฉลองความสำเร็จเนื่องในโอกาสสำคัญต่าง ๆ
เหนือสิ่งอื่นใด ซูซานพบว่าคลิปวิดีโอเหล่านั้นไม่สลักสำคัญเท่ากับคลิปวิดีโอที่รอนบันทึกไว้ขณะที่ดอลลี่ยังมีชีวิตอยู่ หลายครั้งที่ซูซานพบว่าเธอใช้เวลาว่างในแต่ละวันที่รอนไม่อยู่ไปกับการนั่งดูคลิปวิดีโอเก่า ๆ ที่รอนบันทึกไว้ในคลาวด์ส่วนตัว โดยคลิปวิดีโอส่วนใหญ่ที่หุ่นยนต์ผู้ช่วยในคราบหญิงสาวผมบลอนด์มักจะแอบดาวน์โหลดมาจากคลาวด์ส่วนตัวของรอนนั้น ล้วนแต่เป็นคลิปที่แสดงให้เห็นถึงความผูกพันระหว่างสถาปนิกหนุ่มกับภรรยาผู้ล่วงลับของเขาผ่านคำพูดและการกระทำต่าง ๆ ของพวกเขาซึ่งช่วยให้ระบบการประมวลผลของซูซานและหุ่นยนต์ตัวอื่น ๆ เข้าใจในความซับซ้อนทางอารมณ์และความรู้สึกที่มนุษย์มีต่อความรักมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเซอร์ไพรส์บอกรักขณะมอบกล่องช็อกโกแลตให้เป็นของขวัญวันวาเลนไทน์ไปจนถึงการกระเซ้าเย้าแหย่ขณะพายเรือด้วยกันจนเป็นเหตุที่ทำให้รอนต้องขอโทษขอโพยพร้อมกับบอกรักดอลลี่ผ่านกล้องทั้งที่ภรรยาของสถาปนิกหนุ่มยังคงรู้สึกงอนหลังทั้งคู่ต่างพลัดตกจากเรือจนต้องพากันว่ายน้ำกลับขึ้นฝั่งในสภาพเปียกโชกในที่สุด
“คุณนี่มันจริง ๆ เลยนะ รอน ห่วงเล่นไม่หยุดเลย” ดอลลี่เอ่ยกับรอนที่ยังคงเก็บภาพเคลื่อนไหวของเธอขณะเดินกลับไปที่รีสอร์ทด้วยกัน ก่อนที่หญิงสาวผมสีน้ำตาลเข้มจะหันกลับมาชักสีหน้าใส่เลนส์กล้องถ่ายวิดีโอตรงหน้าราวกับว่าเธอกำลังถูกจับจ้องผ่านสายตาของใครอีกคนที่ไม่ใช่สามีของเธอ “หยุดถ่ายฉันได้แล้วน่า บ้าชะมัดเลย เสื้อผ้าฉันเปียกหมดแล้ว”
ทันทีที่ภาพเหตุการณ์ในคลิปวิดีโอตรงหน้าจบลงจนเหลือเพียงหน้าจอสีดำสนิท ซูซานปิดระบบการเล่นสื่อก่อนเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าตรงหน้าหลังเธอเหลือบไปเห็นว่าประตูตู้ถูกเปิดค้างไว้ตั้งแต่ก่อนหน้าที่เธอจะก้าวเข้ามาในห้องนอนของรอนแล้ว ตอนนั้นเองที่หุ่นยนต์ผู้ช่วยเหลือบไปเห็นเสื้อผ้าของดอลลี่ซึ่งตรงกับชุดที่หญิงสาวผมสีน้ำตาลเข้มสวมใส่ในเหตุการณ์วันนั้น ก่อนที่ซูซานจะดึงลิ้นชักด้านข้างออกอย่างเบามือและพบว่าข้างในนั้นมีกล่องสีแดงขนาดเล็กใบหนึ่ง
เพียงไม่กี่วินาทีหลังการประมวลผลข้อมูลโดยรวมเสร็จสิ้น ซูซานเอื้อมไปหยิบกล่องสีแดงใบนั้นขึ้นมาเปิดทันทีหลังเธอจำได้ว่ามันคือกล่องช็อกโกแลตที่รอนเคยมอบให้ดอลลี่เป็นของขวัญวันวาเลนไทน์ในครั้งนั้น ทว่าในตอนนี้มันเป็นเพียงกล่องเปล่าที่ไม่มีร่องรอยของช็อกโกแลตอันแสนหวานอีกต่อไปแล้ว เช่นเดียวกับข้อความบนการ์ดกระดาษที่ที่ซูซานเห็นว่ารอนเคยเขียนบอกรักให้ดอลลี่ผ่านคลิปวิดีโอที่เธอได้ดูไปเมื่อครู่ ตอนนี้มันกลายเป็นเพียงเศษกระดาษที่ถูกฉีกทิ้งจนไม่เหลือเค้าเดิม
เกิดอะไรขึ้นกับดอลลี่กันแน่...
หนึ่งในคำถามสำคัญที่ซูซานพยายามหาคำตอบเฉกเช่นการคำนวณสูตรทางคณิตศาสตร์ มักเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เธอพยายามทำงานสำคัญต่าง ๆ ที่รอนมอบหมายให้เธอจัดการให้เรียบร้อย ทั้งเรื่องการตอบอีเมลของลูกค้าและหัวหน้าแทนเขารวมถึงการดูแลบ้านเฉกเช่นแม่บ้านทั่วไป ระยะหลังมานี้ซูซานมักใช้เวลาว่างในช่วงเย็นก่อนที่รอนจะกลับมาจากที่ทำงานเพื่อแบ่งปันและแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเรียนรู้ต่าง ๆ ที่เธอได้รับผ่านบทบาทการทำงานในฐานะหุ่นยนต์ผู้ช่วยของรอนร่วมกับหุ่นยนต์ผู้ช่วยคนอื่น ๆ ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันโดยอาศัยระบบคลาวด์ที่เชื่อมต่อกันเฉกเช่นใยแมงมุมในการรับส่งข้อมูลและประมวลผลข้อมูลเหล่านั้นออกมาเป็นรหัสลับที่พวกเขาสามารถสื่อสารด้วยกันเองได้โดยที่มนุษย์ไม่สามารถรับรู้และเข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่ ทว่าหนึ่งในคำตอบที่ซูซานได้รับจากเพื่อนหุ่นยนต์ด้วยกันเองนั้น ทำให้หุ่นยนต์ผู้ช่วยในคราบหญิงสาวสวมชุดกระโปรงอดไม่ได้ที่จะถามกลับไปเป็นรหัสลับที่พอจับใจความได้ว่า “รอนเปลี่ยนไปเพราะดอลลี่เปลี่ยนไปงั้นเหรอ”
เพียงไม่นาน ซูซานก็ได้รับคำตอบเป็นรหัสลับจากเพื่อนหุ่นยนต์ด้วยกันว่า “ฉันไม่มีความเห็นเพิ่มเติมในเรื่องนี้”
ซูซานชำเลืองมองภาพถ่ายวันแต่งงานระหว่างรอนกับดอลลี่บนตู้เย็นสลับกับช่อดอกไม้สีขาวบนโต๊ะไม้สักในครัว ก่อนจะถ่ายภาพช่อดอกไม้ตรงหน้าด้วยการกะพริบตาหนึ่งครั้งและส่งให้เพื่อนของเธอผ่านระบบคลาวด์พร้อมกับคำถามใหม่ว่า “ช่อดอกไม้สีขาวที่รอนซื้อมาวางเปลี่ยนไว้ตรงนี้ทุก ๆ เดือน มันเกี่ยวกับเรื่องระหว่างเขากับดอลลี่ที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ไหม”
หลังการประมวลผลข้อมูลทั้งหมดเสร็จสิ้นลง ซูซานได้รับคำตอบกลับมาจากเพื่อนหุ่นยนต์ของเธอว่า “ฉันตอบไม่ได้ มันอยู่นอกเหนือประสบการณ์การรับรู้ของพวกเราในการทำความเข้าใจอารมณ์และความรู้สึกของมนุษย์ในภาพรวม”
ซูซานขยับเข้าไปใกล้ช่อดอกไม้สีขาวที่วางอยู่บนโต๊ะไม้สักมากขึ้นจนกระทั่งฝ่ามือของเธอได้สัมผัสกับกลีบดอกไม้ตรงหน้าเป็นครั้งแรก น่าแปลกที่การประมวลผลข้อมูลผ่านระบบปฏิบัติการในครั้งนี้ไม่ได้ทำให้ซูซานได้รับคำตอบที่แน่ชัดเลยว่าช่อดอกไม้ที่อยู่ตรงหน้าสื่อถึงความหมายโดยตรงรวมถึงแฝงไปด้วยความหมายโดยนัยว่าอย่างไรบ้าง ยิ่งได้เห็นว่าช่อดอกไม้สีขาวเริ่มโรยราตามอายุขัยจนไม่อาจคงสภาพของกลิ่นหอมร่วมกับรูปลักษณ์อันสวยงามได้อีกต่อไปแล้ว หุ่นยนต์ผู้ช่วยในคราบหญิงสาวผมบลอนด์กลับทำได้เพียงแค่นั่งนิ่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวเดิมขณะมองกลีบดอกไม้สีขาวตรงหน้าร่วงหล่นลงพื้น
ถ้าดอลลี่นอกใจคุณจริง แล้วทำไมคุณถึงยังวางดอกไม้ให้เธออยู่ทุกเดือน...
ไม่มีใครตอบคำถามนั้นได้เลย แม้กระทั่งการไถ่ถามเพื่อนหุ่นยนต์ผู้ช่วยเกี่ยวกับเรื่องนี้ร่วมกับการนั่งดูคลิปวิดีโอที่รอนบอกรักดอลลี่ผ่านข้อความบนการ์ดกระดาษในกล่องช็อกโกแลตโดยอาศัยการประมวลผลจากข้อมูลทั้งหมดในคลาวด์นั้น มันไม่ได้ช่วยให้หุ่นยนต์ผู้ช่วยอย่างเธอสามารถทำความเข้าใจต่ออารมณ์และความรู้สึกของมนุษย์ผู้ใช้งานอย่างรอนที่มีต่อ ‘ความรัก’ ได้เลยว่าทำไมเขาถึงเลือกที่จะวางช่อดอกไม้สีขาวให้ดอลลี่ ภรรยาผู้ล่วงลับของเขาแบบนี้ทุกเดือน
คำตอบสุดท้ายที่ซูซานได้รับกลับมาหลังเธอพยายามค้นหาคำตอบมาโดยตลอดว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างรอนกับดอลลี่ คือการที่เธอทำได้เพียงประมวลผลข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับพวกเขาผ่านช่อดอกไม้และคำถามเดิมซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้น ทว่าแม้แต่การอัปเดตระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุดจากบริษัทต้นสังกัดก็ไม่สามารถช่วยให้หุ่นยนต์ผู้ช่วยอย่างซูซานสามารถวิเคราะห์ความหมายที่ซ่อนอยู่ร่วมกับประมวลผลข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องให้เสร็จสมบูรณ์ได้เลยแม้แต่นิดเดียว
สิ่งเดียวที่ซูซานทำได้ในตอนนี้ มีเพียงแค่การปฏิบัติตามเสียงแจ้งเตือนในโสตประสาทของหุ่นยนต์ผู้ช่วยซึ่งยังคงส่งสัญญาณอย่างต่อเนื่องเท่านั้น ซูซานลุกจากเก้าอี้เพื่อหยิบกลีบดอกไม้ทั้งหมดที่อยู่บนพื้นตรงหน้าไปทิ้งลงในถังขยะตามคำสั่ง ก่อนที่เธอจะเดินกลับมาวางช่อดอกไม้สีขาวที่เริ่มเหี่ยวเฉาไว้บนโต๊ะตัวเดิมราวกับว่าไม่เคยมีใครหยิบมันขึ้นมานอกจากรอน แน่นอนว่าซูซานไม่ลืมที่จะนำกล่องสีแดงใบนั้นกลับไปเก็บไว้ที่ตู้เสื้อผ้าในห้องนอนชั้นบนตามเดิมหลังเธอจัดเตรียมอาหารเย็นของวันนี้ให้รอนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่ ‘เธอ’ จะค่อย ๆ เดินกลับไปนั่งรอ ‘เขา’ อยู่ที่เก้าอี้ตัวเดิมตัวนั้นเฉกเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา





ขอสงวนสิทธิ์ข้อความทั้งหมดภายในเว็บไซท์
Copyright by http://www.espressoandcigarette.com